วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ชาวบ้านอำเภอศรีธาตุ เปิดศึกเจ้าคณะตำบลค้านสร้างที่พักสงฆ์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์

              กลุ่มชาวบ้านบ้านตาดอี้ง หมู่ 1 บ้านราษฎร์สมบูรณ์ หมู่ 2 และบ้านใหม่ไทรงาม หมู่ 10 ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี  รวม 50 คน  ได้มารวมตัวกันที่ ถนนระหว่างหมู่บ้านใหม่-บ้านโป่งคอม เพื่อคัดค้านการก่อตั้งที่พักสงฆ์ ที่มีพระอธิการปรีชา ปัญญาวโร เจ้าคณะตำบลเวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เข้ามาใช้พื้นที่ ที่ชาวบ้านระบุว่าเข้ามาสร้างที่พักสงฆ์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ของบ้านใหม่ไทรงาม และมีการขุดดิน ตัดต้นไม้ เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร ด้านนายวุฒิเดช ภูนิโรจน์ กำนัน ต.ตาดทอง  กล่าวว่าชาวบ้านหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 10 ต.ตาดทอง คัดค้านการเข้ามาตั้งที่พักสงฆ์ ของพระอธิการปรีชาฯ มาตั้งแต่เริ่มเข้ามาตั้งแต่ปี 2548 ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ที่ขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2478 และมีการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่สร้างกุฎิและศาลาหลายหลัง จนเมื่อ 2-3 ปี มานี้ มีการนำรถแบคโฮมาขุดหน้าดิน และตัดต้นไม้ขนาดใหญ่หลายครั้ง จนชาวบ้านเห็นว่าเป็นการบุกรุกทำลายป่า ทางผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านเข้าไปขัดขวางและขอไม่ให้มีการบุกรุกป่าตลอด พร้อมไม่ให้อีกกระทำอีก แต่พระอธิการปรีชาฯ อ้างว่า ตนเองมีสิทธิจัดการและดูแลผืนป่าแห่งนี้ โดยอ้างเอกสารการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ทำพุทธอุทยาน ที่ออกให้โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานีลงวันที่ 2 ธันวาคม 2552  
            จากนั้นในปี 2557 ทางพระอธิการปรีชาฯ ได้ขอให้กรมที่ดินยกเลิกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือน.ส.ล.เพื่อให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะว่าชาวบ้านได้ขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2478 ก่อนมีประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติเวียงคำ-ศรีธาตุ และพระอธิการปรีชาฯ ยังไปร้องศูนย์ดำรงธรรมให้สอบและเพิกถอน น.ส.ล.เพื่อจะได้เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามประกาศโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ให้ทางที่ดินอำเภอศรีธาตุตรวจสอบ อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจสอบ รวมถึงชาวบ้านได้ร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการกระทำของพระอธิการปรีชา 
             จากนั้น พ.จ.อ.เกรียงไกร ชัยอามาตย์ ปลัดอำเภอศรีธาตุ   ได้ให้ตัวแทนชาวบ้านร่วมเดินทางเข้าพบพระอธิการปรีชา  เพื่อสอบถามโดย พ.จ.อ.เกรียงไกรฯ ได้แจ้งให้พระอธิการปรีชา  ทราบว่าชาวบ้านต้องการให้หยุดไว้ก่อน ให้รอผลสรุปจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดเรื่องการใช้พื้นที่ว่าจะออกมาอย่างไร แต่ทางพระอธิการปรีชา  อ้างว่า ทำตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้พระดูแลป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้านพระอธิการปรีชา เปิดเผยว่า หลังจากวันนี้ก็จะดำเนินการสร้างวัด โดยยื่นเอกสารตามขั้นตอน ซึ่งหากผลตรวจสอบที่ดินตรงนี้ออกมาว่าเป็นของหน่วยงานใดก็จะไปยื่นตรงนั้น ซึ่งทราบว่าทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งหนังสือมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว พร้อมทั้งกล่าวว่าโยมกลุ่มนี้เขาไม่พอใจวัดป่าก็ไล่พระป่า ไม่พอใจวัดบ้านก็ไล่พระบ้าน มันเป็นปกติของเขา ไม่ต้องไปสนใจว่าเขาจะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ เอาหลักของกฎหมายดีกว่า ถึงจะถูกต้อง เรื่องที่เกิดต่างคนต่างพูด เราพูดเรื่องป่าสงวนก็ทำได้ ชาวบ้านพูดเรื่องที่ น.ส.ล.ก็คัดค้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น